26 พ.ค. 2562

เพอร์ไลท์ (Perlite) คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

เพอร์ไลท์ (Perlite) คืออะไร

 

เพอร์ไลท์ คืออะไร  

เพอร์ไลท์ (Perlite) เป็นหินอสัณฐานภูเขาไฟที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างสูง ( หินอสัณฐาน แปลว่า หินที่มีการเรียงตัวอย่างไม่เป็นระเบียบในโครงสร้างของหิน ) โดยเกิดจากการที่น้ำเข้าไปทำปฏิกิริยากับหินอ๊อบซิเดียน มักจะพบตามธรรมชาติ เมื่อถูกเผาจะเกิดการขยายตัว มีการนำมาใช้ในทางอุตสาหกรรม และเป็นผลผลิตทางการค้าที่มีประโยชน์ เนื่องจากคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบาหลังจากผ่านกระบวนการเผาไปแล้ว

 เพอร์ไลท์ มีลักษณะอย่างไร

 ลักษณะโดยทั่วไปของหินเพอร์ไลท์ (Perlite) เป็นอย่างไร

หินเพอร์ไลท์ มีสมมาตร คือ 7-16 เท่าของปริมาตรเดิม การขยายตัวทำให้หินมีความวาวมากขึ้น และส่งผลต่อการดูดซับฟองอากาศของหิน หินเพอร์ไลท์ที่ไม่มีการขยายตัวแล้วจะมีความหนาแน่นประมาณ 1100 kg/m³ ส่วนหินเพอร์ไลท์ที่มีการขยายตัวแล้วจะมีความหนาแน่นเหลือประมาณ 30–150 kg/m³.


องค์ประกอบหินเพอร์ไลท์ Perlite

องค์ประกอบทั่วไปของหินเพอร์ไลท์ (Perlite)

70-75% ซิลิคอนไดออกไซด์ : SiO 2 12-15% อะลูมิเนียมออกไซด์ : Al 2 O 3 3-4% โซเดียมออกไซด์ : Na 2 O 3-5% โพแทสเซียมออกไซด์ : K 2 O 0.5-2% เหล็กออกไซด์ : Fe 2 O 3 0.2-0.7% แมกนีเซียมออกไซด์ : MgO 0.5-1.5% แคลเซียมออกไซด์ : CaO 3-5% เป็นน้ำหรือส่วนประกอบทางเคมีอื่นๆ (ที่สามารถติดไฟได้ จึงไม่สามารถวิเคราะห์ออกมาได้ว่าเป็นอะไร) 

 

การใช้งาน หินเพอร์ไลท์ ด้านการเกษตรมีประโยชน์ดังนี้

ในการรักษาและปรับสภาพของดินที่ใช้ในการเกษตร มีการใช้เพอร์ไลท์ผสมลงไปในดิน เพราะเพอร์ไลท์มีคุณสมบัติเป็นตัวดูดซึมที่ดี และมีความพรุนในตัวสูง ทำให้สภาพดินเป็นดินร่วน และเพอร์ไลท์ยังสามารถช่วยรักษาความสมดุลย์ระหว่างปริมาณของน้ำและอากาศในดินได้ด้วย จากผลการทดลองของบริษัทผลิตเพอร์ไลท์ของประเทศญี่ปุ่น พบว่าเมื่อผสมเพอร์ไลท์ลงไปในดิน จะมีคุณสมบัติดังนี้ - ความพรุนของเพอร์ไลท์มีมากกว่าดินเหนียวทั่วไปกว่า 5 เท่า ทำให้มีปริมาณของก๊าซออกซิเจนในดินเหนียวพอต่อความต้องการของพืช - สามารถกักเก็บความชื้นไว้ได้ดีกว่าดินทรายถึง 4 เท่า ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ดินแห้งจนเกินไป - ทำให้รักษาความสมดุลระหว่างปริมาณน้ำและอากาศในดิน และทำให้ดินรักษาสภาพไม่ชื้นหรือแห้งจนเกินไป - ทำให้ดินมีความยุ่ย ไม่จับตัวกันแข็ง - คุณสมบัติความเป็นฉนวน จะช่วยรักษาอุณหภูมิของดินไม่ให้เปลี่ยนแปลงมาก - ช่วยรากพืชในการดูดซึมอาหาร - เนื่องจากมีสภาพเป็นกลาง มีความคงทนต่อปฏิกิริยาทางเคมี สามารถผสมเพอร์ไลท์กับปุ๋ยเคมีทุกชนิดได้ - เพอร์ไลท์จัดเป็นพวกสารอนินทรีย์ เมื่อผสมลงในดินจะมีความคงทนและไม่ผุสลายจากจุลินทรีย์ นอกจากนี้เพอร์ไลท์ช่วยดูดซึมสะสมพวกยาฆ่าแมลงยากำจัดวัชพืช และปุ๋ยเคมีต่างๆ ที่เกษตรกรเติมลงไปในดินไว้ไม่ให้ซึมหายออกไปจากดินเร็วเกินไป และยังเป็นตัวช่วยลดความเข้มข้นของปุ๋ย และยาฆ่าแมลงที่เติมลงไปในดิน จากคุณสมบัติต่างๆ ของเพอร์ไลท์ดังกล่าวข้างต้นจะช่วยเพิ่มผลผลิตทางด้านเกษตรกรรมของประเทศชาติอย่างมาก เพราะการเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลักของประเทศ และยังสามารถนำไปปรับปรุงบริเวณที่สภาพดินเสื่อม เช่น ดินที่มีความพรุนต่ำไม่สามารถอุ้มน้ำได้ดี
ท่านสามารถศึกษาข้อมูลของเพอร์ไลท์เพิ่มเติมได้ตามลิงค์นี้จ้า คลิกที่นี่
หากท่านใดสนใจจะลองนำไปใช้สามารถดูขนาดและราคาได้จากลิงค์นี้จ้า คลิกลิงค์นี้ หรือจะดูวัสดุปลูกอื่นๆสามารถดูได้จากลิงค์นี้จ้า วัสดุปลูก

29 ก.ย. 2561

หินภูเขาไฟหรือหินพัมมิสคืออะไร

หินภูเขาไฟ หรือหินพัมมิส ( Pumice stone )

"หินภูเขาไฟ" เกิดขึ้นจากการเย็นตัวของหินหลอมเหลวใต้พื้นโลก หรือที่เราเรียกกันว่า “ลาวา”

 
หินภูเขาไฟ
หินภูเขาไฟ


ลาวาเหล่านี้เกิดจากการหลอมละลายหิน และ แร่ธาตุต่างๆ ด้วยความร้อนใต้พื้นโลก ด้วยเหตุนี้ หินลาวาจึงมีสสาร และแร่ธาตุมากมายดังนี้
SiO2 (ซิลิกา) = 62.53 %
CaO (แคลเซียมออกไซด์) = 3.88 %
MgO (แมกนีเซียมออกไซด์) = 0.43 %
Na2O (โซเดียมออกไซด์) = 1.14 %
K2O (โพแทสเซียมออกไซด์) = 0.58 %
Fe2O3 (เฟอร์ริกออกไซด์) = 3.51 %
Al2O3 (อะลูมินา) = 24.57 %
MnO2 (แมงกานีสไดออกไซด์) = 0.12 %

หินภูเขาไฟ พัมมิสมีแร่ธาตุจากแหล่งธรรมชาติคุณภาพสูง ประกอบด้วย แร่ธาตุแคลเซียม และแมกนีเซียมคาร์บอเนต ที่มีค่า pH สูง ช่วยแก้ไขความเป็นกรดของดิน ทำให้ดินมีสภาพดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังประกอบด้วยซิลิกาอยู่มาก ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ช่วยปรับสมดุลและทำงานร่วมกับธาตุอื่นๆ  ในการดูดซึมธาตุอาหารเข้าสู่ต้นพืชได้ง่าย ส่งเสริมให้พืชมีการเจริญเติบโตแข็งแรง ต้านทานต่อโรค และแมลงศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี


หินภูเขาไฟ
ตัวอย่างหินภูเขาไฟ

ประโยชน์ของหินพัมมิสที่มีต่อต้นไม้ที่เรารัก

  • ช่วยกักเก็บน้ำ ความชื้น และสารละลายปุ๋ยต่างๆ ที่ใส่ลงในดินให้อยู่ได้นานมากขึ้น โดยไม่ถูกชะล้างออกไปได้ง่าย
  • ปรับปรุงสภาพดินให้มีความโปร่ง ร่วนซุย
  • แก้ไขปัญหาสภาพความเป็นกรดในดินเปรี้ยว
  • เพิ่มอัตราการดูดซึมแร่ธาตุอาหารพืช ทั้งธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ส่งเสริมให้พืชมีการเจริญเติบโต แข็งแรง ต้านทานต่อโรค และแมลงศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี
  • กักเก็บธาตุอาหาร และเป็นที่อยู่ของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ 

หินภูเขาไฟ
การใช้หินภูเขาไฟผสมดินปลูก

วิธีใช้
นำหินภูเขาไฟไปแช่น้ำพอหมาดๆ โดยสามารถใช้ได้หลายแบบตามผู้ปลูกต้องการ โดยสามารถใช้วางลงใต้ก้นกระถาง , ผสมดินปลูก , วางไว้หน้าดิน หรือใช้หินอย่างเดียวแทนดินก็ยังได้ เพราะสามารถรักษาความชุ่มชื้นสำหรับต้นไม้ได้อย่างดีเยี่ยม แม้หินภูเขาไฟจะมีคุณสมบัติอุ้มน้ำไว้ได้ดี แต่ยังต้องคอยรดน้ำ โดยสามารถสังเกตได้จากสีของหิน หากเริ่มแห้ง หรือขาวขึ้นก็ควรรดน้ำเพิ่มเติม

 หากท่านสนใจหินภูเขาไฟที่จะเลือกไปใช้งานสามารถเลือกดูได้จากลิงค์นี้จ้า คลิกๆ

28 ก.ค. 2561

เม็ดดินเผาปลูกต้นไม้ คืออะไร

เม็ดดินเผา คือ เป็นวัสดุปลูกที่ทำมาจากการเผาเม็ดดินเหนียวที่อุณหภูมิสูง มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ดี ไม่มีการทำปฏิกิริยากับธาตุอาหาร ระบายน้ำและอากาศได้ดี มีโครงสร้างคงทนแข็งแรง สามารถทำการฆ่าเชื้อโรคได้ง่าย ไม่เป็นแหล่งสะสมโรคและแมลงอีกด้วย กากตะกอนสามารถให้ไนโตรเจน(N) และฟอสฟอรัส(P) ในปริมาณที่เพียงพอต่อต่อความต้องการของพืช อินทรีย์สารจะมีลักษณะใกล้เคียงกับดินที่มีความเหมาะสมต่อการปลูกพืช เป็นวัสดุที่ผลิตมาสำหรับปลูกพืชในกระถางต้นไม้และใช้สำหรับปิดหน้ากระถางไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อให้เกิดความสวยงาม และยังช่วยเก็บรักษาความชิ้นในกระถางต้นไม้



คุณสมบัติเด่น
  • อุ้มน้ำได้ดีมีความพรุนในตัว
  • แข็งแรงโครงสร้างมีความคงทน
  • อายุใช้งานมีความคงทนหลายปีและย่อยสลายได้
  • ระบายอากาศดีมาก
  • ไม่ทำปฎิกิริยากับสารละลายธาตุอาหาร
  • ไม่เป็นแหล่งสะสมของโรคและแมลง
  • ช่วยฆ่าเชื้อโรคและแมลงได้ง่าย
  • ไม่มีคุณสมบัติในการแลกเปลี่ยนประจุ

การใช้งานทั่วไป สามารถใช้เป็นวัสดุผสมดินปลูก หรือดินเพาะเมล็ดเพื่อช่วยระบายน้ำได้ดี ทำให้ระบบรากแข็งแรงต้นไม้เจริญงอกงามดี มีน้ำหนักเบา มีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่ผุพังสลายตัวเหมือกับวัสดุปลูกต้นไม้ทั่วไป สามารถใช้ในการโรยหน้ากระถางในขั้นตอนการเพาะเมล็ด เนื่องจากมีน้ำหนักเบา จึงไม่กดทับเมล็ดจมดิน และหลังจากงอกแล้วก็สามารถช่วยพยุงต้นกระบองเพชรไม่ให้ล้มอีกด้วย สามารถใช้ในการโรยหน้ากระถาง หรือสำหรับพื้นที่การเพาะปลูกเพื่อความสวยงาม และเป็นการคลุมดินได้เป็นอย่างดี เป็นวัสดุดินเผาธรรมชาติ

เมื่อท่านสนใจสั่งซื้อสินค้าสามารถดูสินค้าได้จากที่นี่ คลิกๆ

18 มิ.ย. 2561

แนะนำ พีทมอส สำหรับปลูกต้นไม้จ้า

พีทมอส คือ วัสดุปลูกคุณภาพสูงจากธรรมชาติ สำหรับทดแทนดินเพาะกล้า ที่สามารถอุ้มน้ำ แต่มีความโปร่งที่ทำให้พืชได้อากาศทั่วถึง ไม่เป็นกรดหรือด่างเกินไป มีธาตุอาหารเพียงพอที่พืชจะใช้ประโยชน์ได้นานพอสมควร รักษาระดับความชื้นให้กับกล้าเพาะ รวมถึงไม้กระถางปลูกประดับต่างๆได้ดี ด้วยเส้นใยที่มีความโปร่งแต่อุ้มน้ำ จึงทำให้รากพืชได้รับอากาศเพียงพอ มีความแข็งแรงกว่าการเพาะด้วยวัสดุอื่น


พีทมอส : ประโยชน์ของพีทมอส
     - เป็นวัสดุปลูกพืชที่สะอาด ปราศจาก แมลง เชื้อโรค เชื้อรา แบคทีเรีย
     - มีแร่ธาตุที่จำเป็นเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโต (ในช่วงเพาะต้นกล้า)
     - มีความชื้นเพียงพอ และ ปลดปล่อยออกมาให้ต้นกล้าอย่างช้าๆ เมื่อต้นกล้าต้องการ
     - มีสภาพเป็นกลาง (มีค่า HP เป็นกลาง)
     - ลดปัญหาการสลายตัวของธาตุอาหาร เป็นตัวปลดปล่อยปุ๋ยอย่างช้า ๆ ทำให้ช่วยประหยัดปุ๋ย
     - ปกป้องดินจากการแน่นแข็งของดิน และช่วยเติมอินทรียวัตถุในเนื้อดิน
     - ใช้ในปริมาณน้อยในการเพาะต้นกล้าดอกไม้  และต้นกล้าพืชผัก
     - การทำปุ๋ยหมักได้ผลดียิ่งขึ้น พีทมอสช่วยเร่งการทำปุ๋ยหมัก ลดการเกิดกลิ่นเหม็นและช่วยควบคุมการถ่ายเทอากาศและน้ำในกองปุ๋ยหมัก
     - ใช้กับดินเหนียว จะช่วยเพิ่มอากาศในดิน ปรับให้ดินร่วนซุย ปรับช่วยในการถ่ายเทน้ำ และ อากาศได้สะดอก
     - ใช้กับดินทราย จะช่วยเพิ่มเนื้อดิน ปรับให้ดินเก็บรักษาความชื้น ธาตุอาหารในดิน ลดการชะล้างธาตุอาหารของน้ำ

พีทมอส ตรา Pindstrup ผ่านกระบวนการเก็บเกี่ยวที่ ถูกสุขลักษณะปราศจากการปนเปื้อนของเชื้อสาเหตุของโรคพืช ทำให้เมล็ดพืชงอกและเจริญเติบโตได้ดี แข็งแรงเพียงพอต่อการย้ายกล้าปลูกสู้แปลงปลูก อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่

ซื้อได้ที่นี่จ้า พีทมอสคุณภาพดีราคาโดน ยี่ห้อนี้การันตีไม่ผิดหวังแน่นอน คลิก